ปฏิบัติธรรม 3 วัน 2 คืน
by ครูเงาะ รสสุคนธ์ | 2 ธันวาคม 2563
ครูเพิ่งออกจากปฏิบัติธรรมมา 3 วัน 2 คืน จริงๆมาอยู่วัดทุกเดือนมา 4 ปีน่าจะได้ (เว้นตอนโควิด กับมี 2 เดือนที่มีเหตุให้ต้องถือศีล 8 เองที่บ้าน)
ขนาดปฏิบัติที่บ้านทุกวัน มาวัดทุกเดือน กิเลสก็ยังบงการเราอยู่ได้ ยังดีทุกวันนี้ยังพอมีชนะมันบ้าง ถ้าเป็นเมื่อก่อนคือแล้วแต่กิเลสเลยจ้ะ อยากจิกหัวพาพี่ไปกิน ไปเม้าใครลากพี่ไปเลยจ้ะ แพ้มันทุกหมัด ทุกวันนี้ขนาดฝึกให้มีสติก็ยังมีหลงเนืองๆ แต่ก็ดีกว่าแต่ก่อนที่หลงทั้งวันไม่ลืมหูลืมตา
แล้วนึกว่าตัวเอง “มีสติ” และ “เป็นคนดีแล้ว” ซะด้วยสิ
เคยมีหลายคนบอกว่าปฏิบัติธรรม ” ทำที่บ้านก็ได้ ไม่ต้องไปวัดหรอก “ ถูกบางส่วนและไม่ถูกบางส่วน ถูก คืออยู่ที่บ้านก็ต้องทำไม่ใช่รอไปทำที่วัดอย่างเดียวเหมือนแปรงฟันปีละหนนะถ้าเป็นแบบนั้น
ส่วนที่ ไม่ถูก คือ ถ้าเราจะไปโอลิมปิก เราฝึกเองที่บ้านได้ไหม แล้วนี่ฝึกจิตฝึกใจหนักกว่าโอลิมปิกเป็นไหนๆ จึงจำเป็นต้องหาที่ที่เหมาะสมต่อการพัฒนาจิตเพื่อให้แข็งแรง เอามาสู้ตอนอยูทางโลก และที่สำคัญคือครูบาอาจารย์ก็ต้องเหมาะสม เหมือนการเลือกโค้ช ครูบาอาจารย์ที่เหมาะสมดูยังไง ก็หาที่เคร่งครัดในธรรมวินัย เคร่งครัดในการปฏิบัติ ไม่สนเรื่องโลกๆ เพราะแบบนั้นหาเอาที่ไหนก็ได้
การออกมาอยู่วัดมันไม่เป็นที่ชอบใจเหมือนได้นอนบ้านเราหรอก กิเลสมันจะหาเหตุผลไม่ให้มาสารพัด แต่ถ้าเกิดมาแล้วนอนจมกับความสบายชั่วคราวที่หลอกเราว่า นี่คือความสุขแล้ว ซ่อนทุกข์ไว้ราวกับว่าไม่มี
พระท่านเปรียบว่า
การใช้ชีวิตหลงความสุขแบบโลกๆ ก็เหมือน หมูนอนในโคลนสกปรก แล้วเข้าใจว่า นี่ช่างดีงามมีคนมาให้อาหารด้วย หารู้ไม่ว่านั่นคือการนอนรอให้เค้าเอาเราไปเชือด
“เค้า” ในที่นี้ก็คือ ความแก่เจ็บตาย ในสังสารวัฏนั่นเอง มาเยือนเราหรือคนที่เรารักเมื่อไหร่ ก็ดิ้นพล่านเมื่อนั้น
เห็นแบบนี้ก็เลยได้คำตอบชัดว่า
จงฝึกใจนี้ต่อไป ฝึกให้มากเจริญให้มาก
ไม่มีอะไรเป็นที่พึ่งที่ดีไปกว่าจิตใจที่ฝึกแล้วของเรานั่นเอง